แสดงหัวข้อทั้งหมด

Investment+Online (ver.2)

ฝากเงินก่อนซื้อ

มันยากลำบากนะครับ หลังจากที่สมัครซื้อขายหุ้นออนไลน์กับแบงค์กสิกร ออนไลน์แล้ว ก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะมันเข้าใจลำบาก ว่าจะซื้ออย่างไร พยายามที่จะโทรคุยกับศูนย์บริการของแบงค์  แล้วก็ถึงเวลารำคาญตัวเอง ก็เลยต้องทำการฝากเงินจากแบงค์กสิกร เข้าไปที่บัญชีที่เค้ากำหนดให้ฝากเข้าขั้นต่ำ 30,000 บาท เรียบร้อยแล้ว โอนเงินแล้วครับ คำถามต่อมา…

แล้วจะซื้ออย่างไร

ก่อนซื้อก็ต้องทำการศึกษาหุ้นก่อน ว่ามีพื้นฐานอย่างไร  ก็ต้องทำอย่างไรครับ หาหนังสือมาอ่าน ต้องรู้จักบริษัทนั้นๆ ต้องรู้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมว่า ตอนนี้เป็นอย่างไร  ต้องดูทีวี  ต้องฟังผู้รู้พูด  ก็พอดีช่วงนี้ดูทีวีออนไลน์ จากเวบไซด์ www.adintrend.com/hd บ่อยครับ ก็ต้อง intrend กับเค้าหน่อยฟังคุณลุงกำนันทุกคืนหละครับ แต่บังเอิญไปเห็นทีวีออนไลน์ช่องหนึ่งชื่อว่า Money Channel ออ เค้าท่าครับ ลองเปิดดู ก็มีวิทยากร มาพูดให้ความรู้เรื่องหุ้นตลอดวันครับ ก็เลย ฟัง ฟัง แล้วก็ฟัง ได้ความจากกูรู สรุปว่า

                -นักลงทุนมีหลายแบบ แบบซื้อขายระยะสั้น หรือพวกเก็บยาวๆ ปี สองปี สามปี แล้วค่อยทำการขายเอากำไร

                -การซื้อหุ้น ต้องเลือกหุ้นพื้นฐาน ราคาต้องไม่สูงมาก  ถ้าหุ้นราคาแพง เรียกว่า ไม่ควรซื้อเก็บ

                -ต้องซื้อหุ้นเมกะเทรนด์ คือหุ้นที่ยั่งยืน มีมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน แล้วก็น่าจะอยู่ในอนาคตด้วย อันนี้ต้องศึกษาประวัติหุ้นแต่ละตัว (เช่น หุ้นสื่อสาร Dtac Ais ฯ)

            -บางที น่าจะซื้อกองทุนรวม ให้กองทุนรวม ทำงานแทนเรา ไม่ต้องไปซื้อหุ้นเองแต่ละตัว กองทุนจะจัดการให้เรา และจะเก็บเงินค่าจัดการ เราก็นั่งดูเงินทำงาน

ซื้อแล้วครับ

ได้ฟังข่าวจากช่อง Money Channel อีกนั่นแหละว่าตอนนี้ หุ้นกรุงไทยราคาลดลง น่าสนใจ เอาละวะ ซื้อเลย ลองเลยครับ คิดง่ายๆว่าเราก็เป็นลูกค้ากรุงไทย  แล้วก็มั่นคง ของรัฐบาล ไม่น่าเจ๊ง ไปที่เวบไซด์กสิกรแบงค์ ล็อคอินท์ แล้วก็ไปที่  K-cyber Trade สอบถามเจ้าหน้าที่ของแบงค์ที่โทรไปคุย สอบถามว่า จะซื้อหุ้นได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ก็บอก ให้ทำดังนี้คือ

            -ไปที่หัวข้อ ภาวะตลาด

                -ไปคลิกที่ Streaming –Pro

                -หน้าจอภาพ จะขึ้นที่ด้านบนเมนูว่า settrade.com:wwwk6.settrade.com-Google Chrome หน้าจอภาพนี้แหละครับที่จะทำการซื้อขายหุ้น ที่ด้านล่างของหน้าจอภาพ จะมีช่อง buy ,sale และช่องอื่นๆ ดังนี้

                        -เอาละครับ จะซื้อแล้วนะครับ ไปคลิก ที่หัวข้อ buy ใส่รหัสย่อของหุ้น KTB(คือหุ้นกรุงไทย) ,vol(ซื้อจำนวนเท่าไหร่การซื้อ ซื้อได้เพิ่มครั้งละ 100 หน่วยลงทุน) ,Price(จะซื้อหุ้นตัวนี้ราคาเท่าไร ต้องใส่ลงไป เพราะ มันจะต้อง match กับราคาในตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ว่าราคาที่เราซื้อตรงกับราคาตลาดหรือไม่ ถ้าตรง ถึงจะซื้อได้ เช่น ผู้เขียนตั้งราคาซื้อที่ 17.20 บาท ต่อหุ้น แล้วราคาตลาดเป็น 17 บาท อันนี้แหละครับ ซื้อได้แล้วครับ) ออ  ท่านผู้อ่านต้องคลิก submit ด้วยนะครับ

                        -ที่ด้านบนของจอภาพมีหัวข้อ Portfolio เข้าไปคลิกดูครับ จะมีรายละเอียด การลงทุนของเรา ว่ามีรายละเอียด  บอกเราว่า   เรามีหุ้น KTB จำนวน 1700 หุ้น(Actual Volume) ,ราคาต่อหุ้น เท่าไหร่(Average Cost),ราคาตลาดเท่าไหร่ (Market Price) ,มูลค่ารวม เท่าไหร่ (Amount) ,มูลค่าตามตลาดเท่าไหร่ (Market Value) ถ้าราคาตลาดต่ำกว่า ราคาหุ้นรวม คือเราขาดทุน ถ้าราคาตลาดสูงกว่า มูลค่าหุ้นรวมของเรา คือเรามีกำไรจากหุ้น  อันนี้จะขายก็ขายได้เพราะมีกำไรแล้ว  แต่อันนี้คิดว่าผู้เขียนคงไม่สนใจที่จะซื้อขายรายวันครับ คงทิ้งไว้เป็นปีหละครับ แล้วค่อยมาดูว่ามีกำไรหรือเปล่า แล้วค่อยขายออกไป ถ้ามีกำไร

พฤติกรรมหลังซื้อ

หลังจากซื้อแล้วก็มีการ login เข้าไปดูหุ้นแทบจะทุกวันเลย ไม่รู้ว่า จะดูไปทำไม?  ในเมื่อจะลงทุนระยะยาว  ดูไปดูมาเสียเวลาครับ ไม่ดูดีกว่า  เพราะดูทีไร ก็มูลค่าหุ้นลดทุกที ตอนนี้ราคาก็ 16.40 บาท ต่อหุ้น แล้ว  เสียอารมณ์เปล่าๆ ครับ เข้าไปดูปีละครั้งน่าจะดีกว่ามั้ง ?

บทสรุป

ก็ต้องรอดูหละครับ ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นจะมีกำไรต่อปี กี่% 5 หรือ 10 % ต่อปี หรือมากกว่านี้  จะมากกว่าการฝากเงินกี่เท่า แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ ไม่มีการรับประกันว่าเงินต้น ท่านจะคงอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า อันนี้ก็ต้องรอดูครับ อีก 1ปีผู้เขียนจะมารายงานให้ท่านผู้อ่านรับทราบนะครับ