ซื้อที่-ออสซี่
ผู้เขียนเดินทุกเช้าถ้ามีโอกาส วันนี้ก็ได้เดินอีกเช่นเคย เดินผ่านบริษัท Real estate ได้มีโอกาสได้เห็นประกาศขายที่ดินประมาณ 50,000 กว่าเหรียญ ก็เกิดอาการ สงสัย แล้วก็อยากเป็นเจ้าของที่ดินผืนน้อย ขึ้นมาซะงั้น ทั้งนี้ก็เพื่อ ลงหลักปักฐาน ในการเตรียมตัว พาครอบครัวย้ายมาอยู่ประเทศนี้ภายใน 2 ปีข้างหน้า
ขอกู้แบงค์ซื้อที่ดิน
สมองสั่งการอย่างนี้ คราวนี้ก็เดินหน้าแล้วหละครับ ต้องทำอย่างไร เจ้าประจำครับ ต้องไปแบงค์ commonwealth เพื่อขอคุยกับเจ้าหน้าที่ เค้าก็บอกว่า ต้องคุยวีดีโอ คอนเฟอร์เร้นท์ กับสำนักงานใหญ่ที่ซิคนีย์ นั่งรอซักพัก เจ้าหน้าที่ก็เรียกเข้าไปในห้อง มีระบบคอมพิวเตอร์ มีจอภาพ มีกล้อง ซักพัก มีภาพขึ้นที่จอภาพ เจ้าหน้าที่ ที่ซิคนีย์แนะนำว่าเค้าชื่อ ซู เราก็แนะนำตัวเอง แล้วก็บอกความประสงค์ว่าต้องการซื้อที่ดินเปล่า ราคาประมาณ 59,000 $ ครับ ก็เป็นปกติครับ แบงค์ก็ต้องสอบถาม ก็ต้องดูเงินในบัญชีของเรา ก็ต้องคำนวณว่า ถ้าเค้าให้เงินเรา แล้วเรามีโอกาสจะคืนเงินให้เค้าหรือไม่ อย่างไร ครับสรุปว่า ไม่ได้เงินกู้ เพราะว่า มีหนี้บัตรเครดิตใบหนึ่ง ที่เป็นบัตรร่วม ระหว่างผู้เขียนกับพี่ชายของผู้เขียน นั่นหมายความว่า เราเป็นหนี้แบงค์ไปด้วย เพราะว่าเป็นบัตรร่วมสองคน ผู้เขียนก็พยายามจะอธิบายว่า บัตรเครดิตใบนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นชื่อของผู้เขียนจริง แต่ผู้เขียนไม่ได้เอาเงินในบัตรเครดิตไปใช้อะไรเลย พี่ชายใช้เงินจากบัตรเครดิตนั้นคนเดียว คุณซูแกก็บอกว่า วิธีที่เราจะได้เงินกู้ซื้อที่ดินนี้ ก็คือ ต้องถอนบัตรเครดิตใบนี้ออกไปจากบัญชีของเรา ถึงจะมีโอกาสได้กู้เงิน 80% ของยอด 59,000$
ครับ มีโจทย์ชัดเจนอย่างนี้ ผู้เขียนก็เดินเรื่องต่อเลยครับ ก็ได้ขอคุยกับเจ้าหน้าที่ของแบงค์ที่สาขา แจ้งความประสงค์ว่า ต้องการถอนบัตรเครดิต ที่เป็นบัตรร่วมนี้ออกจาก บัญชีส่วนตัวของผู้เขียน คุยไปคุยมาก็ได้ความว่า ทำได้ เจ้าหน้าที่สาขาก็คุยอธิบายกับใครไม่ทราบว่า บอกว่าผู้เขียนที่เป็นลูกค้าของแบงค์ต้องการถอนบัตรเครดิตที่ทำร่วมกับพี่ชายออก เพราะว่าไม่ได้เป็นคนใช้เงินในบัตรนี้เลย พี่ชายใช้วงเงินอยู่คนเดียว ครับก็สรุปว่า ถอนบัตรเครดิตนี้ออกจากบัญชีของผู้เขียนได้ภายในสองอาทิตย์ครับ
หมดปัญหาไปอีกเปลาะ คราวนี้ต้องทำไงต่อ ผู้เขียนก็ต้องไปแบงค์เพื่อขอวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์คุยกับคุณซูอีกรอบหละครับ ว่าทำตามเงื่อนไขของเค้าแล้ว คราวนี้คงจะกู้ได้ เป็นอย่างที่คาดครับ กู้ได้แต่ต้องส่งเอกสารต่างๆให้กับเค้าพิจารณา ก็เหมือนกับการยื่นขอกู้ทั่วไปหละครับ สลิบเงินเดือน บัญชีธนาคารไม่ต้องเพราะเราเดินบัญชีอยู่แล้ว รายละเอียดเค้ามีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรแตกต่างกับการขอกู้ทั่วไป
แบงค์อนุมัติเงินกู้
ดำเนินการเรื่องการส่งเอกสารให้คุณซู ซิคนีย์ โดยทางเมล์ทั้งหมด รอเป็นเวลา ไม่เกิน 2 อาทิตย์ ก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณซู ว่าได้ส่งเอกสารมาให้เซ็นต์ที่ชื่อว่า Borrower- Identity Verification and Privacy Information หรือเท่าที่ผู้เขียนเข้าใจก็คือเอกสารการยืมเงินนั่นแหละครับ วันรุ่งขึ้นผู้เขียนก็ไปที่แบงค์เลยหละครับเพื่อให้สาขาเอาเอกสารให้เซ็นต์และส่งคืนคุณซู หลังจากนั้นซักพักประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มีอีเมล์เอกสารการ Approve ยืนยันกลับมาว่า เราได้รับการอนุมัติเงินกู้แล้ว มีระยะเวลาประมาณ 6 เดือนในการดำเนินการให้แล้วเสร็จ รายละเอียดในเอกสารมีว่า ได้อนุมัติการกู้เงินแล้ว ยอดเงินเท่าไหร่ ,ดอกเบี้ยเท่าไร ,จ่ายคืนเดือนเท่าไร และดอกเบี้ยกี่เปอร์เซ็นต์ และระยะเวลาการกู้กี่ปี
ซื้อที่ดินเปล่า
แต่ในการซื้อที่ดิน ไม่ใช่แค่นี้ เราจะต้องมีเงินสด อีก 20% ของ 59,000 $ เพื่อจ่ายให้เจ้าของที่ เพราะแบงค์ให้เงินยืมเราแค่ 80% ของมูลค่าที่ดิน คราวนี้ก็ต้องวางแผนการหาเงินแล้วหละครับ ผู้เขียนมีเงินสดอยู่ 6,000$ ต้องการเงิน 20% ของ 59,000 $ ก็ประมาณ 11,800 $ ต้องหาเงินเพิ่มอีก 5,800 $ ออ แล้วก็มีค่าทนายที่ทำเรื่องอีกประมาณ 1,100 -1,300 $ ก็รวมความแล้วต้องมีเงินสดคือ 7,000 $ เพื่อจ่ายให้เจ้าของที่ดิน ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็คือ 210,000 บาทครับ ก็ต้องส่งตรงจากเมืองไทยแล้วหละครับ สำหรับเงินก้อนนี้
ผู้เขียนได้ทำการติดต่อทางนายหน้าหรือ บริษัท Real Estate ว่ามีความประสงค์จะซื้อที่ ก็ได้รับแจ้งว่า ถ้าต้องการซื้อที่ดิน ก็ต้องจ่ายมัดจำเลย 10% ของมูลค่าที่ดิน แต่เมื่อผู้เขียนได้ไปสอบถามทนายความที่จะทำเรื่องให้กลับได้ความว่า ยังไม่ต้องจ่าย 10% จนกว่า จะทำเรื่องเอกสารให้เสร็จก่อน นี่ก็เป็นข้อดีของการมีทนายแล้วหละครับ ถ้าเราไปเชื่อนายหน้า ป่านนี้เราก็ต้องจ่ายเงินให้เค้าไปแล้ว 10% ของราคาที่ดิน (เงินก้อนนี้จะคืนให้ครับ ถ้าเรื่องไม่ผ่าน)
ขั้นตอนการซื้อที่ดิน
ทนายความได้ชี้แจงว่า มีขั้นตอนการซื้อขาย ตามนี้ คือ
-to cool of exchange settle notice 14 days
หลังจากนั้น ผู้เขียนก็ได้รับจดหมายจาก Real estate ยืนยันว่าเราจะซื้อที่ดิน เลขที่อะไร ราคาเท่าไร และมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไรต่อไป มีทั้งหมด 3 ขั้นตอน คือ
1-Offers and Acceptance
2-Exchange of Contracts
3-Settlement
ได้รับโทรศัพท์จากทนายความ เรื่องต้องการให้เข้าพบเพื่อคุยเรื่องสัญญา รายละเอียดของสัญญาการซื้อขายที่ดิน ผู้เขียน เข้าพบทนายตามวันนัดหมาย คุณคริสติน ทนายความชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสัญญา การซื้อขายที่ดิน (Contact for the sale of land) ว่าใครเป็นผู้ซื้อ ผู้ขาย เงินมัดจำ 10% , อธิบายว่า จะต้องเช็คว่าเรามีสิทธิซื้อที่ดินได้หรือไม่ ต้องตรวจสอบวีซ่า เพื่อความแน่ใจ , เอกสารเกียวกับที่ดิน เป็นแผนผังที่ดิน ,เอกสาร council ที่เป็นแบบถาม-ตอบเพื่อความเข้าใจ เกี่ยวกับการมีที่ดิน และเงื่อนไขต่างๆที่เจ้าของที่ดิน ต้องรับรู้ รับทราบ พร้อมปฎิบัติ ซึ่งหัวข้อหนึ่งที่ทนายความบอกว่า ต้องเข้าไปสอบถาม council คือเรื่อง Bush fire prone land ,และเอกสารสุดท้ายที่ต้องทำความเข้าใจ คือ Fee Disclosure & Notice of Rights เป็นเอกสารรายละเอียดค่าธรรมเนียมการว่าจ้างทนายความ เพื่อทำเรื่องซื้อที่ดิน ในเอกสารระบุชัดว่า มีค่าใช้จ่ายประมาณ 990-1,100 $ แล้วก็แจ้งเราว่า ให้ไปอ่านรายละเอียดก่อน แล้วก็เซ็นต์รับเอกสารพร้อมส่งคืนให้เค้าด้วย
สิ่งที่ทนายต้องทำ
-ต้องเช็คว่า วีซ่าของเรามีสิทธิในการที่จะซื้อที่ในประเทศนี้หรือไม่
-ต้องตรวจสอบแบงค์ว่า ให้เงินเรากู้เงินซื้อที่ดินนี้จริง หรือไม่
สิ่งที่ผู้เขียนต้องทำ
-ส่งเอกสารให้ทนายความ มีเรื่องวีซ่า ,เรื่องใบอนุมัติการกู้เงินซื้อที่ดินจากแบงค์
-ไปพบ council สอบถามเรื่อง Bush fire prone land
-สอบถาม ว่าถ้าจะตัดต้นไม้ออกจากพื้นที่ จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ (ที่ดินที่ต้องการซื้อมีต้นไม้ใหญ่)
ผู้เขียนได้เข้าพบ council สอบถามเรื่องรายละเอียดเรื่อง Bush fire prone land ,council ตอบว่า ไม่ได้เจาะจง ที่พื้นที่ ที่เราต้องการซื้อที่เดียว เจ้าหน้าที่อธิบายว่าในเขตที่ดินที่เราต้องการซื้อ รอบๆบริเวณนั้นทั้งหมด อยู่ในเขต Bush fire prone land หมายความว่า ในการสร้างบ้าน จะต้องระวังในเรื่องวัสดุที่จะใช้ จะต้องป้องกันไฟไหม้ได้ดี ส่วนเรื่องต้นไม้ที่อยู่ในที่ดิน ถ้าต้องการจะคงไว้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ในอนาคตถ้าต้องการรื้อถอน ก็สามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่เรื่องต้นไม้ของ council ได้ ไปดูให้ฟรี ไม่คิดเงินค่าใช้จ่าย
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็นำเบอร์โทรศัพท์ที่รับผิดชอบเรื่องต้นไม้มาให้ พร้อมแบบฟอร์มอีก 2 แบบฟอร์ม ในเรื่องการสร้างบ้าน ต้องเอาแบบฟอร์มนี้ให้บริษัทรับสร้างบ้านกรอกให้ council พิจารณาการสร้างบ้านว่าผ่านการอนุมัติหรือไม่ อย่างไร แบบฟอร์มนี้ ชื่อว่า Armidale Dumaresq Council Development Application & Associated Activity From
อีกแบบฟอร์มหนึ่งคือ แบบฟอร์มการขอให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับต้นไม้เข้าไปดูต้นไม้ภายในพื้นที่ของเรา ว่าเป็นอย่างไร จะตายหรือยัง ควรหรือไม่ควรถอนอยู่จากพื้นที่ แบบฟอร์มชื่อว่า Application For Tree Removal or Trimming
ธนาคารยืนยันยอดเงินกู้
เจ้าหน้าที่แบงค์ คุณซู โทรมาบอกว่าได้รับ contact จากทนายความของเราแล้ว และก็คุยรายละเอียดของยอดเงินกู้อีกรอบ พร้อมเงินค่าธรรมเนียมในการทำเรื่องกู้ น่าจะ 600 $ บอกว่า ถ้าต้องการกู้เกิน 80% ของมูลค่าที่ดินก็ทำได้ แต่ต้องมีค่าทำประกันอีก 2,000$ แต่คุณซูแนะนำว่า ไม่ต้องทำก็ได้กู้แค่ 80% ก็พอ แล้วก็บอกว่า จะยืนยันยอดการกู้เงินและรายละเอียดต่างๆมาให้อีกครั้งทางอีเมล์ของผู้เขียน
ตรวจสอบราคากลางที่ดิน
ผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จัก กับคนไทย ที่มีอาชีพเป็นโบรกเกอร์ขายที่ดินเหมือนกันในออสเตรเลีย ซึ่งเค้าสามารถเช็คราคากลางของที่ดิน ที่ผู้เขียนต้องการซื้อได้ ก็นับว่าเป็นโชคดีของผู้เขียนครับ ภายในเวลาไม่เกินอาทิตย์ หลังจากที่ผู้เขียน บอกที่อยู่ ของที่ดิน ที่ผู้เขียนต้องการจะซื้อให้เค้าไป ก็มีอีเมล์กลับมา แจ้งราคากลาง พร้อมรูปภาพยืนยันที่ดินแปลงนั้นมาให้กับผู้เขียนว่า ราคาหลังสุดของที่ดินนั้นมีมูลค่าเพียง 38,000 $ แต่ราคาขายตอนนี้ สูงถึง 59,000 $ (รายละเอียดในภาพตามตาราง ,เลขที่ 11 Morson AVE ,last sale 38,000$ ,ปี 2009)
สรุปว่า
จากการที่ผู้เขียนได้รับคำแนะนำของคนไทยที่อยู่ในวงการที่ดิน จากการพิจารณาด้วยตัวเอง เห็นว่าราคาที่ดิน ที่จะซื้อนั้นแพงเกินไป และเป็นที่ดินเปล่า ยังต้องมีการสร้างบ้านต่อไปอีกภายหลัง ได้สรุปตัดสินใจว่า เอาไว้รอเวลาที่พร้อม และทำการกู้ซื้อบ้านพร้อมที่ดินเลย จะมีมูลค่าเพิ่มมากกว่า เพราะที่ดินเปล่า ซื้อแล้วก็ยังต้องอยู่บ้านเช่าเหมือนเดิม อนาคตน่าจะ Apply บ้าน แล้วย้ายจากบ้านเช่าไปบ้านตัวเองเลย น่าจะดีกว่า คุ้มกว่า ประหยัดกว่า ครับแล้วไงต่อครับ ผู้เขียนก็ได้แจ้งยกเลิกการกู้เงินกับธนาคาร แล้วก็ไปจ่ายเงิน ค่าทำงานของทนายบางส่วน แล้วก็ยังไม่มีหนี้สินเพิ่มครับ …..จบข่าว….