CeBIT Australia ,31 May –  2 June 2011

เป็นปีที่ 3 แล้วครับที่ผู้เขียนได้มาเดินงาน IT ระดับโลกที่ออสเตรเลีย ปีนี้ได้บัตรเข้างานฟรีเช่นเดิม ทางผู้จัดงานได้ส่ง e mail ,e ticket มาให้ เราก็เรียกรหัส บาร์โค๊ดมาทางมือถือ แล้วก็เอาไปแนบกับเครื่องอ่านบาร์โค๊ดที่ตั้งไว้หน้างาน หลังจากนั้นตัวเครื่องก็พิมพ์บัตรเข้างานออกมา อัตโนมัติ เราก็ดึงสายห้อยคอมาติดบัตรเข้างานด้วยตัวเอง  แล้วก็เดินเข้างานถูกยิงบาร์โค๊ดที่ตัวบัตรเข้างานที่เราห้อยคออยู่  ถ้าเป็นเมืองไทยเท่าที่เคยไปงานออกบูทต่างๆยังไม่เป็นแบบนี้ เดี๋ยวนี้เป็นอย่างไรต้องไปสอบถามอีกที  วันหลังมีโอกาสจะนำมาเล่าให้ท่านผู้อ่านให้รับทราบอีกที 

ตื่นตา ตื่นใจ กับทางเข้ารูปแบบดิจิตอล  มีจอวิ่งโลโก้ CeBIT ที่หน้างาน บูทแรกก็เจอเลยครับ ด้านขวามือ SamSung อยากเจออยู่พอดี มีปัญหาการใช้งานเยอะมาก ทั้ง SamSung Tab และก็ SamSung Galaxy S มือถือ เรียกว่าถามกันเป็นชุดๆ เลย ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า เดี๋ยวนี้เวลาเราซื้ออุปกรณ์ไฮเทคมาใช้งาน ไม่ค่อยมีคู่มือที่ละเอียดบอกวิธีการใช้งานให้เราแล้ว ต้องไปหาเองจากเน็ต หรือทดลองเล่นกันเอง 

หลังจากเคลียร์ปัญหาการใช้งาน  SamSung ได้แล้วผู้เขียนก็เดินต่อไปในงาน เริ่มจาก Hall 2ที่อยู่ทางซ้ายมือสุดก่อนแล้วเดินไปทีละแถว ไล่ไปเรื่อยๆไปทางขวามือ จนถึง Hall 5 สุดท้ายที่จัดงาน 

มีอะไรที่น่าสนใจที่น่าจะเอามาเล่าให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ รับรู้ Update Technology กันบ้างครับ ???

-อันแรก น่าจะเป็นเรื่อง เครื่อง Tablet ราคาน่าจะถูกลงเรื่อยๆ เพราะ ประเทศจีนมีผู้ผลิต Tablet มาออกบูท รับออเดอร์กันเห็นๆ ใครที่สนใจสั่งผลิตได้เลยครับ ตอนแรกผู้เขียนเดินเข้าไปคุยนึกว่า ขาย Tablet รุ่นใหม่ แต่ที่ไหนได้เป็นโรงงานรับจ้างผลิต ลองเข้าไปดูที่เวบไซด์www.szquality.com ไม่ใช่แค่ Tablet นะครับ มีมือถือ Android ด้วยครับ  

-e BOOK บูทนี้ มาเลยครับมีเครื่องตั้งคล้าย Tab แต่เป็นแค่อุปกรณ์เพื่ออ่านหนังสือ อีเล็คโทรนิค ผู้เขียนลองสอบถามดูว่า  แล้วเข้าเน็ตได้หรือไม่เพื่อเล่นเวบไซด์ต่างๆ เค้าบอกว่าได้เฉพาะเวบไซด์ที่ขายหนังสือ เพื่อไปโหลดซื้อหนังสือ  แค่นี้ก็ลำบากแล้วครับ อุปกรณ์ที่จะขายเพื่อให้อ่านหนังสืออย่างเดียว จะอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อสินค้าพวก Tab หรือ Tablet ก็สามารถทำได้   อย่างนี้คนจะเลือกซื้ออะไรระหว่าง Tab กับ e BOOK ครับ เพราะเท่าที่สอบถามราคาก็ 300-500 $ เหมือนกัน ลำบากครับ  สินค้าตัวนี้คงบูมยากครับ ….ฟันธง 

-E way = payment made easy บูทสีเหลืองเป็นเอกลักษณ์ เหมือนทุกปี คือเวบที่รับจ่ายเงินค่าสินค้าของลูกค้าเรา กรณีที่เรามีเวบไซด์แล้วอยากให้เวบไซด์เราสามารถรับเงินผ่านหน้าเวบได้เลย ก็สามารถใช้บริการเวบไซด์นี้ได้ ค่าธรรมเนียมการใช้งานต่อปีคือ 350$ แล้วค่าใช้จ่ายต่อ Transaction อีกไม่ถึง 1$ ถามตั้งนานว่าค่าธรรมเนียมการใช้งานเท่าไหร่ ไม่ยอมตอบอธิบายแต่ว่าถูกมาก 50 cent ต่อ Transaction ที่แท้ก็ฟันเรารายปีไปแล้ว 350$  ถ้าผู้อ่านต้องการให้เวบไซด์ของตัวเองมีโมดูลรับเงินจริงๆ กรุณาไปดูการบริการที่ paypal.com.au ดีกว่าครับ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี คิดค่าบริการต่อ Transaction ครับ (ผู้เขียนก็ว่าจะลองสมัครใช้บริการที่นี่เหมือนกัน ติดตามบทความของผู้เขียนในฉบับถัดๆไปแล้วกันนะครับ) 

-Evolis card printers = print your cards and badges on demand เครื่องพิมพ์การ์ดพลาสติกครับ เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการทำบัตรสมาชิก เท่าที่สอบถามดูตั้งแต่เครื่องเล็กที่สุด ราคาเริ่มต้นที่ 1,695 $ (ถ้าคิดเป็นเงินไทยเรท 30บาทก็เป็นเงิน 50,850 บาทต่อเครื่อง) ราคาไม่เบาเลยครับ (www.interactcard.com.au) ผู้เขียนลองสอบถามดูว่า ถ้าต้องการการ์ดพลาสติกอย่างเดียวรับทำหรือเปล่า  เค้าก็ให้เบอร์ติดต่อมาครับว่าให้โทรไปที่ Identity OZ (02) 9638 0944 

-ezescan SERVER = transforming paper into knowledge ค่าธรรมเนียม ติดตั้ง การใช้บริการ 3,000 $ ต่อปี นี่ถ้าฟังราคาไม่ผิดจะต้องเป็นองค์กรที่ใหญ่มาก ลักษณะการทำงานคือ การสแกนเอกสารเก็บไว้ใน SERVER แล้วเรียกเอกสารกลับมาใช้ใหม่ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ง่าย รวดเร็ว ประหยัดเนื้อที่จัดเก็บเอกสารในสำนักงาน  

-Online Staff Cloud ,Tasks EverDay ,Get Your Tasks Done เป็นบูทที่ไม่ค่อยมีคนเข้า มีผู้หญิงยืนอยู่คนเดียว ผู้เขียนลองเข้าไปสอบถามดูได้ความว่า เป็นบูทที่รับจัดหาพนักงาน outsource ให้เรา ต้องการคนทำงานติดต่อได้ที่นี่ บริษัทของประเทศอินเดีย www.taskseveryday.com 

-บูทของรัฐบาล มาโชว์เทคโนโลยี่เหมือนทุกปี แต่ปีนี้มาแปลกมีรถบรรทุกคันใหญ่มาจอดโชว์ด้วย ภายในรถทำเหมือน office ทุกอย่าง สอบถามดูได้ใจความว่า เป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ของ central link ที่จะออกไปให้บริการกับชาวบ้านเขตรอบนอก ชนบทที่ห่างไกล ทำงานได้เหมือนออฟฟิศจริงๆ มีการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ไว้หมด ครับเท่าที่ขึ้นไปดูบนรถก็มีการแบ่งเป็นห้องๆ มีห้องครัวด้วยนะครับ แต่ไม่มีห้องน้ำเค้าบอกว่าก็จะไปจอดแถวปาร์คที่มีห้องน้ำสาธารณะอยู่แล้ว ก็เลยหมดปัญหาไป อุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีครบทั้งเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในออฟฟิศ นี่เค้าเรียกว่า เอาเทคโนโลยี่มาใช้ให้เกิดประโยชน์จริงๆกับประชาชนที่ห่างไกล  แล้วเมืองไทยล่ะครับอะไรๆก็เกิดประโยชน์กับนักการ….. 

-สีส้มเห็นมาแต่ไกล Alibaba.com =Global trade start here โลกซื้อขายเริ่มที่นี่ แค่ไปลงทะเบียนก็ได้กระเป๋ากับปากกา ผู้เขียนสอบถามถึงค่าธรรมเนียม ฝากซื้อ ขาย พนักงานบอกว่า ฟรี รายได้เค้ามาจากโฆษณา เค้าว่างั้น   มาดูในกระเป๋าที่แจกจะมีสมุดหนึ่งเล่ม เขียนว่า Consumer Electronics (product and supplier directory) เปิดดูด้านในก็จะเป็นบริษัทรับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ลงรายละเอียดไว้ที่เวบไซด์ของ alibaba.com  ท่านผู้อ่านที่ต้องการซื้อขายสินค้าลองไปสมัครเป็นสมาชิกนะครับ 

-SMScentral.com.au ชื่อสินค้า ชื่อบริษัท คือชื่อเดียวกันชัดเจน ศูนย์กลางของ SMS บูทนี้ในความเห็นของผู้เขียนในการเดินชมปีนี้ ถือว่าเป็นบูทที่ผู้เขียนได้รับประโยชน์ทางตรงมากที่สุด เพราะได้คุยกับผู้จัดการ หลังจากที่คุยกันแล้วให้เค้า ฟรีSMS ใช้ 200sms  ส่งเมลให้ผู้เขียนเป็นที่เรียบร้อย  ท่านผู้อ่านที่มีระบบฐานข้อมูลลูกค้า (CRM system)อยู่แล้วที่เป็นเบอร์มือถือ เค้าบอกว่าสามารถเชื่อมต่อกับระบบ SMS ของเค้าได้ฟรี ไม่คิดค่าระบบ แต่จะคิดแค่ค่า SMS เท่านั้น ราคาประมาณ 30-50 cent/1sms 

-บูทของแต่ละประเทศ ก็มีทั้งฟิลิปปินส์  เยอรมัน จีน อังกฤษ เกาหลี ฯแต่ที่ผู้เขียนสนใจเข้าไปชม คือศรีลังกา นี่ก็น้องๆอินเดียครับ มีซอฟต์แวร์มาร่วมกันโชว์ประมาณ 6 บูท ที่ผู้เขียนเข้าไปคุยด้วยคือ ระบบ HR (Human Resource) ขายโปรแกรมจัดการเรื่องคน บริหารคน เงินเดือน การอบรบ ฯ (PeoplesHR.com) เค้าบอกว่าเหมาะสำหรับ บริษัทที่มีพนักงาน 3,000-4,000 คน ระดับบิ๊กครับ แต่ถ้าองค์กรไม่ใหญ่มากสามารถสมัครใช้ระบบ online ได้ที่เวบ PeoplesHR.COM สามารถใช้บริการแบบเป็นค่าใช้จ่ายต่อคนต่อเดือนได้  เดือนละไม่กี่เหรียญ อันนี้ก็ concept cloud computing (HR on cloud)ละครับท่านผู้อ่าน login ปุ๊ปใช้งานได้ปั๊ป แล้วก็ลดปัญหาสำหรับบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ด้วย เพราะถ้าขายซอฟต์แวร์แบบไปติดตั้งแต่ละบริษัทให้ใช้งานเฉพาะบริษัทนั้นๆเลยก็จะแพงมาก ลดปัญหาการขายซอฟต์แวร์ไม่ได้ ก็เอามาให้เช่าใช้รายเดือนออนไลน์ซะเลย  แนวโน้มมันก็จะเป็นการบริการแทนที่จะเป็นการขายซอฟต์แวร์ 

-Webtrends.com  =Create ,Measure and Improve your digital marketing เป็นเวบที่ให้บริการใช้วัดสถิติต่างๆของเวบไซด์ของท่าน จะบอกว่า ผู้เข้าชมมาจากไหน ช่วงไหน คนเข้ามาก เข้าน้อยฯ เค้าบอกว่า ของเค้าละเอียดกว่า web analytics ของ GooGle (http://www.google.com/analytics/) ที่ให้บริการฟรี  ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการเวบนี้คือ 500$ ต่อปีครับ  

-inzantsales.com.au นี่คือระบบซอฟต์แวร์การขาย ที่ทำงานได้เฉพาะบน Ipad เท่านั้น  น่าจะเหมาะกับบริษัทที่มีพนักงานขาย ที่ต้องออกไปรับออเดอร์กับลูกค้าถึงร้านค้า  คล้ายกับบริษัทที่ขายส่งเครื่องอุปโภคและบริโภค อะไรทำนองนั้น พนักงานขายไม่ต้องถือสมุดออเดอร์แล้วก็เขียนด้วยปากกา  ถ้ามี Ipad ก็เรียกดูสต๊อก  ทำการorder online เข้าสำนักงานใหญ่ได้ทันที ลดการใช้กระดาษ แล้วก็รวดเร็ว ทั้งการทำงานขององค์กร และการจัดส่งของให้ลูกค้า  แต่ที่สำคัญอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบมันยังแพงอยู่ครับ เค้าบอกว่าในอนาคตจะพัฒนาระบบให้เล่นได้ใน Tablet ยี่ห้ออื่นๆครับ 

-บูทสุดท้าย ที่ผู้เขียนคิดว่า น่าสนใจก็คือ การให้บริการเช่าพื้นที่ ใช้งานแบบออนไลน์ครับ  เค้าบอกว่าเค้าคือ Australia’s home of CLOUD computing ผู้เขียนได้เข้าไปที่เวบไซด์ www.fluccselastic.com.au  เห็นเขียนว่า fluccs elastic Australia no.1 provider of cloud server เท่าที่ลองดูการสาธิตที่บูทนี้ เค้าบอกว่าให้เช่าพื้นที่ทำงานออนไลน์  สามารถเข้าไปเซ็ทได้เองว่าต้องการเนื้อที่เท่าไหร่  ตัวจัดการแบบไหน เค้ามีให้เลือก  ความเร็วที่ต้องการเลือกได้ ระดับความปลอดภัย ฯ ราคาก็จะปรับไปตามความต้องการของเรา ราคาเริ่มต้นเช่าพื้นที่ประมาณ 20-30$ ต่อเดือน (30 GB)  

      นี่แหละครับที่ผู้เขียนคิดว่าเป็น  Trend ของอนาคต ที่ทุกคนจะมีพื้นที่ในโลกออนไลน์ ไปไหนไม่ต้องพกอะไร ขอให้เข้าอินเตอร์เน็ตได้ก็ทำงานได้  ข้อมูลทุกอย่างอยู่บนเน็ต แล้วเวลานั้น chrome Book หรือ chrome PC ของ GooGle ก็จะเป็นอุปกรณ์การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ทุกคนจะต้องพกติดตัว นอกจากนั้นก็ไม่ต้องมีอะไรแล้ว เพราะการโทรศัพท์ก็โทรผ่านเน็ตด้วย skype.com การทำงานก็จะคุยการผ่าน e mail หรือ chat กันเป็นหลักได้ทั้ง MSN ,Gtalk หรือของค่ายอื่นๆ แล้วยังมี social network อย่าง Facebook  Twitter เป็นช่องทางในการติดต่ออีกหละ แล้วชีวิตของเราๆ ท่านๆ จะหนีอินเตอร์เน็ตพ้นได้อย่างไรครับ ???