MyBIZEXPO.com.au
ผู้เขียน ได้ซื้อหนังสือ my business (mybusiness.com.au) มาอ่าน สอง สาม ฉบับแล้ว เพราะเห็นว่าน่าสนใจดี เพราะเกี่ยวกับธุรกิจ น่าสนใจ แล้วก็เป็นการพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษไปในตัวด้วย มันอาจจะซึมเข้าไปทีละเล็กละน้อย โดยเราไม่รู้ตัว ถ้าเราอ่านมากขึ้น เราอาจจะเข้าใจภาษาเค้ามากขึ้นก็ได้ ตอนเรียนอาจารย์สอน และบอกให้อ่านหนังสือพิมพ์ ซึ่งยากครับ ศัพท์เฉพาะเยอะแยะไปหมด แต่ถ้าเปลี่ยนมาอ่านในเรื่องที่เราชอบ เรื่องที่เราพอรู้อยู่บ้างในพื้นฐานความรู้เดิมที่เราชอบ ก็น่าจะช่วยให้การอ่านของเราลื่นไหล และพัฒนาได้ โดยไม่รู้ตัวครับ
ในหนังสือที่ซื้อมา เค้าได้แนบบัตรงาน MyBIZ EXPO มาให้ด้วย ผู้เขียนก็ตั้งหน้าตั้งตา รอวันจัดงาน แล้วก็ได้ไปร่วมงานในวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา การเข้างานก็คล้ายกับงาน ทั่วไปที่ผู้เขียนไปร่วมงาน ครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น Find Food , CeBIT ล้วนแล้วแต่ต้องมีการ register เข้างานที่ด้านหน้างานก่อน ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ( ตามรูปประกอบ) นี่เป็นการยืนยัน ถึงการมีระบบ ของที่นี่ เพิ่งได้อ่านเมล์ คนส่งต่อกันมาเหมือนกัน ว่า ทำไม ประเทศไทย ไม่รวย อะไรทำนองนั้น เค้าก็สาธยายว่า ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับทรัพยากร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของประเทศ หรือจำนวนคนในประเทศ มันขึ้นอยู่กับความเป็นระเบียบ ทัศนคติ การทำงานเป็นระบบ อะไรทำนองนี้
การมีระบบ ที่ว่า นี่คืออะไร ก็คือ การที่ต้องบันทึกข้อมูลผู้เข้าร่วมงานลงระบบคอมพิวเตอร์ทุกครั้ง ก่อนเข้างาน ซึ่งอันนี้ ผู้เขียนเคยแนะนำ และเคยเห็นชัดเจนครับ ว่าการเข้าชมงานที่เมืองไทย น้อยงานมากจะซีเรียสกับการบันทึก ผู้เข้าชมงานลงระบบคอมพิวเตอร์ตั้งแต่แรกก่อนเข้างาน นั่นก็คือ ข้อมูลไม่สามารถ นำมาใช้ได้ ภายหลังจากงานเลิกแล้ว ข้อมูลผู้เข้าชมงานที่เป็นประโยชน์ก็กลายเป็นขยะไป
ภายในงานมีอะไร ??? งานนี้รู้สึกได้เลยครับว่าเป็นงานเล็ก ๆ เฉพาะกลุ่มผู้อ่านหนังสือ ฉบับนี้มาเดิน แล้วผู้มาร่วมออกบูท ก็เป็นผู้ที่ลงโฆษณาในหนังสือฉบับนี้ซะเป็นส่วนใหญ่
ลักษณะของบูท ก็ทั่วๆไป ไม่มีการตบแต่งอะไรมาก มีประมาณ 40-50 บูทได้ ที่ด้านข้างของการจัดงาน มีแบ่งพื้นที่ให้มีการสัมมนา มีการเชิญวิทยากร ก็คนที่มาออกบูท นั่นแหละ มาพูดในหัวข้อที่น่าสนใจ ในเรื่องต่างๆ อาทิ เช่น การเงิน แฟรนไชส์ เน็ตเวิร์ค ฯ นี่ก็เป็นการต่อยอด จากธุรกิจหนังสือ สู่การจัดงาน Exibition นั่นเอง ในความรู้สึกส่วนตัวของผู้เชียน ถึงแม้ว่างานจะเล็ก แต่ในแง่ของแนวคิด และการต่อยอดธูรกิจของหนังสือเล่มนี้แล้ว ผู้เขียนคิดว่า เป็นความสำเร็จที่งดงาม ของเค้า ซึ่งไม่ใช่ว่าเจ้าของหัวหนังสือทุกรายจะทำได้
บูทไหน น่าสนใจบ้าง ไปเดินแล้วได้ประโยชน์อะไร ???
การเข้าไปชมงานในแต่ละครั้ง เราจะได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ ท่านผู้อ่าน เป็นการเปิดโลกทรรศ์ ของเรา เค้าอุตส่าห์มาโชว์เราที่เดียว ตั้ง 40-50 บูท (40-50 ธุรกิจ)
-เริ่มจากบูทแรก ชื่อว่า BNI เค้าบอกว่า เค้าเป็นแฟรนไชส์ซี คือ เค้าเป็นธุรกิจ ที่ซื้อสิทธิ์มาทำ เป็น business network international (BNI) เป็นการทำเน็ตเวิร์คระหว่างธุรกิจด้วยกัน จัดประชุม คุยกัน หานักลงทุน ไปคุยกันแล้วจะเกิดธุรกิจ แล้วก็มีค่าธรรมเนียม เวลาที่จะไปเข้ากลุ่มเพื่อคุยกัน เจอคน เจอธุรกิจว่างั้นเหอะ อันนี้ก็แปลกนะครับ ผู้เขียนไม่เคยเจอ ดูรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ http://www.bni.com
-บูทนี้ เหมาะกับธุรกิจที่ต้องให้เครดิตกับลูกค้า เค้าบอกว่า เค้าเช็คเครดิตลูกค้าให้ท่านก่อนได้ ว่าลูกค้าดี หรือไม่ดี ควรจะปล่อยกู้ หรือไม่ http://www.eccreditcontrol.com.au
-NEXGEN Australia นี่มาแปลก ขายกล้อง วงจรปิด เครื่องถ่ายเอกสาร อุปกรณ์สื่อสาร ต่างๆ ผ่อนจ่ายได้รายเดือน เค้าบอกว่า เงินที่ผ่อนจ่ายแต่ละเดือน ที่จ่ายให้เค้า สามารถ นำไปหักค่าใช้จ่าย โทรศัพท์ของเราได้ เออ ฟังดูดีมากๆ ใช่มั๊ยครับ??? ไม่ผิดหรอกครับ ท่านผู้อ่าน สมมติว่า เราต้องการ กล้องวงจรปิด เครื่องถ่ายเอกสาร และมือถือ ไปใช้งานในออฟฟิศของเรา โดยที่ต้องจ่ายเงินรายเดือนให้เค้า 200 $ เราสามารถ นำเงิน 200 $ ที่จ่ายให้เค้าไปหักออก จากค่า โทรศัพท์ที่เกิดขึ้นได้ สมมติว่าในที่นี้เราใช้ โทรศัพท์ เดือนละ 400 $ ค่าโทรศัพท์ ที่เราต้องจ่ายก็จะเหลือ แค่ 200$ เท่านั้นเอง นี่ก็หมายความว่า เราจะได้อุปกรณ์ ข้างต้นมาใช้ฟรี ใช่มั๊ย โอ๊ย อย่างนี้ใครจะไม่เอา ไม่เอาก็บ้าแล้วครับ แต่
.เมื่อพนักงาน Nexgen ไปพบและคุยกัน ก็ถึงบางอ้อ ครับ เด็ดขาดมาก ถ้าจะให้หักค่าใช้จ่ายกันได้ เราจะต้องเปลี่ยนการใช้งาน ทั้งโทรศัพท์ร้าน(landline) และ โทรศัพท์ มือถือ ส่วนตัว(mobile) ไปใช้บริการโทรศัพท์ ของ Nexgen เท่านั้น มันก็คือ การยกเลิกบริการจากรายเก่า ไปใช้ผู้ให้บริการรายใหม่ ก็คือ Nexgen ดีๆนั่นแหละ โดยมีกลยุทธ์ เอาของมาให้เช่าใช้งาน ในระยะยาว 5 ปี เออ ตอนแรก เราก็เชื่อนะ เพราะที่บูท ผู้เขียนได้ถามหลายครั้งแล้วว่า ทำได้หรือ??? หักค่าใช้จ่ายได้จริงเหรอ สุดท้ายก็เฉลยละครับ จะทำได้ก็ต่อเมื่อต้องเปลี่ยนไปใช้บริการของเค้าทั้งหมด ถึงจะเอาค่าใช้จ่ายเช่าใช้อุปกรณ์มาหักจ่ายค่าใช้งานโทรศัพท์ได้ เออ ตาสว่างเลย แยบยลมาก เทคนิคนี้ มันเยี่ยมมากครับ
-WorkCover อันนี้ของรัฐบาล ที่ทำงานร่วมกับนายจ้าง และลูกจ้าง เพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง การจัดการค่าตอบแทน มีการจัดอบรบฟรีให้กับผู้ประกอบการในหัวข้อต่างๆ ที่ช่วยให้การทำงานปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ในตอนแรกผู้เขียนฟังไม่ดี คิดว่าต้องเสียเงินค่าอบรบ ท้ายสุดสรุปว่าหน่วยงานนี้ ให้เงินช่วยเหลือ องค์กร หรือ ร้านอาหาร ด้วยในการที่จะพัฒนาระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ให้เงินไปปรับปรุงที่ทำงาน ให้มีความปลอดภัย อาทิ ทำพื้นกันลื่น รายละ 500 เหรียญ คำว่า รายละหมายถึง 1 ABN (ABN คือ Australian Business Number คือหมายเลขธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย) ให้เงินช่วย 500 เหรียญ หากหน่วยงานใด หรือร้านอาหารร้านใด ต้องการเงินสนับสนุน พร้อมอบรบฟรี ให้ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.workcover.nsw.gov.au หรือ โทรศัพท์ 13 10 50
-Factoring อันนี้เป็นบูทเกี่ยวกับ ท่านมีลูกหนี้ อยู่เต้าติดเงินท่าน แต่ท่านต้องการเงินด่วนจากบิลที่ลูกหนี้แต่ละรายติดเงินท่าน ท่านก็เอาบิลที่มีที่ยังไม่ได้เก็บเงินไปขอเงินเค้าเอาออกมาใช้ก่อน เค้าก็จะให้เงินท่านเป็นวงเงิน 80% จากยอด 100% ในบิลนั้น เมื่อถึงกำหนด เวลาที่จ่ายบิล บริษัทนี้ก็จะไปรับเงินแทนท่าน แล้วก็หักค่าธรรมเนียมที่ท่านนำเงินของบริษัทไปใช้ก่อน 80% เหลือเงินหลังหักค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ ก็จะคืนเงินท่าน ( 20%- ค่าธรรมเนียมที่เอาเงินเค้าไปใช้ก่อน = เงินคืนให้ท่าน ทั้งนี้คิดค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ ขึ้นกับวงเงินที่ท่านเอของเค้าไปใช้ก่อนหน้านี้ 80%) อันนี้ก็เหมาะสำหรับใช้บริการสำหรับองค์กรใหญ่หน่อย เป็นการแก้ปัญหาเรื่อง cash flow ขององค์กรครับ (http://www.bibby.com.au/what-we-do.aspx)
-บูทที่ปรึกษา เกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจให้เป็น ธุรกิจแฟรนไชส์ ชื่อว่า Sherpa Group (Your Guide to Franchising and Licensing) เป็นคุณผู้หญิงครับ ชื่อ Vicki Prout มีประสบการณ์มากพอสมควร ตัวอย่างลูกค้าเค้าก็คือ telcoinabox ฯ มีค่าใช้จ่ายต่างๆเป็นขั้นๆเลย 8 ขั้น ในการพัฒนาระบบธุรกิจธรรมดา ให้เป็นธุรกิจแฟรนไชส์
ขั้นแรก Initial Meeting
ขั้นที่สอง Executive Workshop
ขั้นที่สาม Feasibility Study ค่าใช้จ่าย 15,000 $
ชั้นที่สี่ - Franchise Developmnet ค่าใช้จ่าย 5,000$
ขั้นที่ห้า - Documentation ค่าใช้จ่าย 10,000$
ขั้นที่หก - Training & Recruitment ค่าใช้จ่าย 5,000$
ชั้นที่เจ็ด - Execution & Support
ขั้นที่แปด Exit Strategy
สรุปโดยภาพรวมจะมีค่าใช้จ่ายข้างต้น ประมาณ 35,000$ ภายในระยะเวลาการจัดทำ 4 เดือน นอกจากนี้อาจต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องร่างสัญญา ที่เกี่ยวกับต้องว่าจ้างนักกฎหมายในการช่วยจัดทำอีก 10,000-15,000$
จากการที่ได้พูดคุยสอบถามทางคุณ Vicki เรื่องธุรกิจแบบไหน ถึงจะเข้าเกณฑ์เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ ก็ได้คำตอบว่า ต้องเป็นธุรกิจที่มีการเก็บเงินจากคนอื่น , มีการทำสัญญา ,มีการควบคุม การสอนงาน และสุดท้ายเป็นธุรกิจที่มีการสร้างแบรนด์ (branding)
-บูทนี้ครับ Paypal เป็นเวบไซด์ เกี่ยวกับการจ่ายเงิน ชื่อก็บอกอยู่แล้ว มีคำว่า pay ก็คือจ่าย สมมติว่า เราต้องการให้เวบไซด์ของเรา มีระบบการจ่ายเงิน ก็สามารถสมัคร ใช้บริการ การจ่ายเงินให้กับเวบไซด์เราได้ เท่าที่สอบถามพนักงานประจำบูท เค้าบอกว่าไม่ยาก แต่ผู้เขียนยังไม่ได้ลองครับ ทดลองทำได้ที่ http://www.paypal.com.au/au or 1800 729 725
Paypal นี่เป็นเวบรับจ่ายเงินระดับโลก ส่วนเวบไซด์ของประเทศออสเตรเลีย ที่ทำแบบนี้เหมือนกันก็มีเวบไซด์ eway.com.au ครับ ผู้เขียนเคยเห็นในงานคอมพิวเตอร์ CeBIT ครับ ลองเปรียบเทียบราคา ค่าบริการกันดูครับว่า ที่ไหน ดีกว่า แต่ถ้าเอาชื่อชั้นแล้ว Paypal น่าจะมีภาษีดีกว่าครับ
-Shoeboxed.com.au บริษัท รับจัดทำเอกสาร ลดเวลาในการทำงานเอกสาร เค้าทำให้เฉพาะเอกสารที่ส่งสำนักงานบัญชี คือว่า ช่วยงานสำนักงานบัญชี ว่างั้นเหอะ น่าจะเหมาะกับองค์กรใหญ่แอกสารเยอะมากจนสับสน เออแล้วถ้าจ้างเค้าทำให้ช่วยทำเอกสารให้สำนักงานบัญชี แล้วเราจะเป็นการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยใช่เหตุหรือไม่ ถ้าคิดในแง่ดี เราสามารถวิเคราะห์ เอกสารเราได้ ค้นหาสะดวก ดูย้อนหลังได้ง่ายเวลามีปัญหา เพราะเค้าให้ user password ให้เราดูข้อมูลของเราออนไลน์ ได้ตลอดเวลา
-บริษัทซอฟต์แวร์ ออนไลน์ http://www.sagebusiness.com.au/ บูทนี้เป็นบริษัท ทำโปรแกรมออนไลน์ โปรแกรมเหมาะกับธุรกิจซื้อมาขายไป หรือ ธุรกิจโรงงาน ทำงานผ่านเน็ตได้เลย สะดวกสบายมากครับ
-บริษัท รับเป็นที่ปรึกษาให้กับ SMEs ในด้านต่างๆ การวางแผนการตลาด, ทำเวบไซด์,search engine optimization ,social media marketing ฯ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่ http://www.ideasintoaction.com.au/
-บูทนี้รับโปรโมท ธุรกิจ ผ่านแก้วกาแฟ www.zammitpromocups.com.au ไอเดียดีครับ สำหรับผู้ที่ขายกาแฟ น่าสนใจ คล้ายกับทำน้ำดื่ม ที่ผู้เขียนเคยเจอ ในงานหนึ่ง ติดโลโก้ของร้านตัวเองที่ขวดน้ำเลย อันนี้ก็มีโลโก้ของร้านที่แก้วกาแฟครับ
หลากหลายธุรกิจ หลากหลายความคิด หลากหลายช่องทางในการทำงาน ในการพัฒนาองค์กร ในการปรับปรุง ในการเปิดหูเปิดตา รู้เรื่องที่ยังไม่เคยรู้ รอบรู้เรื่องการทำธุรกิจที่แตกต่าง นับเป็นอาหารสมองอย่างดีสำหรับผู้อ่านและ ผู้เขียนครับ แล้วสัญญาว่าจะไปเดินงานอื่นๆแล้วนำมาเขียนเล่าสู่กันฟังใหม่ครับ